ซื้อทีวีโซนี่ ควรพิจารณาจากอะไร เพื่อให้ได้ทีวีที่ภาพสวยสมจริง คมชัด ระบบเสียงดี
ซื้อทีวีโซนี่ หรือ Sony TV แบรนด์ชั้นนำสำหรับทีวี จากประเทศญี่ปุ่น ผู้นำด้านทีวีคุณภาพ ที่มีเทคโนโลยีการผลิตหน้าจอ และระบบเสียงสุดเจ๋ง ทำให้เพลิดเพลินกับการดูทีวี และยังมาพร้อมฟังก์ชันต่างๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก ขณะใช้งานอีกด้วย
ซื้อทีวีโซนี่ ควรพิจารณาจากอะไร?
1 เลือกจากประเภทของจอทีวี
จอทีวีของโซนี่ มีให้เลือก 3 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภท ก็มีเทคโนโลยีการแสดงภาพที่แตกต่างกัน ภาพที่แสดงออกมา จึงมีคุณภาพ ความคมชัด และความละเอียด ไม่เท่ากัน ดังนี้
- จอทีวีประเภท LCD หรือ Liquid Crystal Display
หน้าจอของทีวีประเภทนี้ ประกอบด้วย Backlit หรือตัวกําเนิดแสง ซึ่งเป็นหลอดไฟ CCFL หรือ Cold Cathode Fluorescent Lamp ซึ่งมีลักษณะเป็นหลอดยาว และเรียว วางเรียงตัวในแนวนอน
เมื่อตัวกำเนิดแสง ทำงานร่วมกับ Color Filter ทั้ง 3 สี ได้แก่ สีแดง สีน้ำเงิน และสีเขียว หรือ RGB จึงได้ภาพที่สีสว่าง สดใส เหมาะกับคอนเทนต์บันเทิง และการแสดงสีกราฟิก เช่น การ์ตูน สารคดี และซีรีส์
- จอทีวีประเภท LED หรือ Light Emitting Diode
หน้าจอของทีวีแบบนี้ มีหลอดไฟขนาดเล็กจิ๋ว เป็นแหล่งให้กำเนิดแสง และมี Liquid Crystal ที่เป็นผลึกแข็งกึ่งเหลว สีแดง สีน้ำเงิน และสีเขียว หรือ RGB
โดยทั้ง 3 สี จะบิดตัวเป็นองศา เพื่อให้แสงจากหลอด LED ลอดผ่านออกมา เป็นสีสันต่างๆ หน้าจอแบบ LED จะจอบาง ให้แสงสว่างได้ดี สีชัด และสดใส ที่สำคัญคือ ประหยัดไฟกว่าทีวี LCD และ Plasma TV
- จอทีวีประเภท OLED หรือ Organic Light – Emitting Diode
เป็นหน้าจอทีวีที่พัฒนาขึ้น โดยการนำข้อดีของจอทีวีรุ่นก่อน ทั้ง LCD, LED และ Plasma TV มารวมเข้าไว้ด้วยกัน ที่สำคัญคือหน้าจอบาง กินไฟน้อย ถือเป็นเทคโนโลยีจอภาพที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
จอ OLED สามารถผลิตแสงออกมาเองได้ โดยไม่ต้องมีหลอดไฟฉายแสงด้านหลัง เพื่อให้เกิดภาพ มุมมองในการรับชมภาพจึงไม่จำกัด และยังรองรับโทนสีได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เซลล์สร้างภาพควบคุมการเรืองแสงได้อย่างอิสระ จึงสามารถคุมโทนสีดำที่มืดสนิทได้
2 เลือกจากขนาดจอ
ขนาดของหน้าจอ และพื้นที่ที่จะใช้ติดตั้งทีวี เป็นปัจจัยที่สำคัญ ในการพิจารณาเลือกซื้อทีวีสักเครื่อง ซึ่งระยะที่เหมาะสมในการติดตั้งทีวี คือทีวีควรมีความสูงสองในสาม ของระยะห่างที่ติดตั้งทีวี กับตำแหน่งการรับชม ดังนี้
- ทีวีขนาด 85 นิ้ว ควรมีระยะการรับชมอยู่ที่ 160 ซม.
- ส่วนทีวีขนาด 75 นิ้ว ควรมีระยะการรับชมอยู่ที่ 140 ซม.
- ขณะที่ทีวีขนาด 65 นิ้ว ควรมีระยะการรับชมอยู่ที่ 120 ซม.
- หากซื้อทีวีขนาด 55 นิ้ว ควรมีระยะการรับชมอยู่ที่ 100 ซม.
- และทีวีขนาด 49 นิ้ว ควรมีระยะการรับชมอยู่ที่ 90 ซม.
ซึ่งทีวีของโซนี่ มีการออกแบบ และเทคโนโลยี ที่พัฒนาหน้าจอ และความชัดสูงระดับ 4K จึงช่วยให้ภาพคมชัด แม้จะรับชมในระยะใกล้ หรือแม้มีจอภาพขนาดใหญ่
3 เลือกจากความละเอียดของภาพ
เทคโนโลยีทีวีของโซนี่ ได้ผลิตทีวีที่มีความละเอียด และคมชัดสูง ซึ่งสามารถแบ่งได้ 2 ระดับ ตามจำนวนพิกเซลที่แสดงขึ้นบนจอภาพ
คือระดับ 4K แสดงจำนวนพิกเซลบนจอจำนวน 8,294,400 พิกเซล และระดับ 8K แสดงจำนวนพิกเซลบนจอจำนวน 33,177,600 พิกเซล ซึ่งยิ่งมีจำนวนพิกเซลมาก ภาพก็จะยิ่งละเอียดมากตามไปด้วย ภาพระดับ 8K จึงละเอียดกว่าภาพระดับ 4K
4 เลือกจากระบบเสียง
- Dolby Atmos คือระบบเสียงรอบทิศทาง ได้ยินแม้แต่เสียงวัตถุ ที่เคลื่อนที่อยู่ข้างบนศีรษะ และด้านข้าง
- S – Force Front Surround คือระบบเสียงหลายมิติรอบทิศ ที่ให้ความรู้สึกสมจริงยิ่งขึ้น
- Acoustic Surface Audio+ คือระบบเสียง ที่เคลื่อนไหวไปพร้อมกับภาพ เสียงเบสชัด และมีมิติ
- Bass Reflex Speaker คือระบบเสียงละเอียด คมชัด สำหรับภาพยนตร์ กีฬา และดนตรี
5 เลือกจากฟังก์ชันการทำงาน
ทีวีโซนี่ มีฟังก์ชันการทำงานต่างๆ ที่พิเศษ และไม่เหมือนใคร ดังนี้
- Sony Smart TV ที่รองรับระบบปฏิบัติการ Android หรือ Google ช่วยให้สามารถรับชม บริการออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน และบริการต่างๆ ได้อย่างสะดวก เช่น YouTube Netflix
- Apple Air Play หรือ Chromecast Built – In คือฟังก์ชันที่เชื่อมต่อทีวีโซนี่ กับอุปกรณ์ iOS หรือ Android ที่ขยายวิดีโอ ภาพ เกม จากสมาร์ทโฟน
- Smart Remote ฟังก์ชันที่เชื่อมต่อเซตท็อปบอกซ์ และอุปกรณ์อื่นๆ เข้ากับทีวีด้วย Smart Commander สามารถควบคุมด้วยเสียงได้ และแผงปุ่ม ก็สามารถใช้งานได้ง่าย แม้อยู่ในที่มืด
- OK Google ฟังก์ชันการควบคุมบ้าน แบบอัจฉริยะ ด้วยเสียง